
มีสายตาสั้น และสายตาเอียง ใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก พออายุ 40 ก็มีสายตายาวระยะใกล้ เลยเปลี่ยนไปใช้แว่นโปรเกรสซีฟ เพื่อช่วยให้มองเห็นได้ชัดขึ้นในทุกระยะ แต่รู้สึกว่าปรับตัวยากมาก ใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเริ่มชิน โฟกัสภาพได้ช้ามาก มุมมองแคบ ต้องหันศีรษะมองตรงๆ ถึงจะชัด แต่ถ้าหันศีรษะเร็วๆ จะรู้สึกว่าภาพไหววูบวาบตลอด ถ้าเหลือบตามองด้านข้าง ภาพจะพร่ามัว บิดเบี้ยว ไม่สบายตาเลย ตัดแว่นจากหลายร้าน ทนใส่อยู่หลายปี ก็ไม่ดีขึ้น จนปวดหัวอย่างรุนแรง เห็นภาพซ้อน
จึงลองใช้แว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก 3 มิติ ที่มีระบบแก้ไขตาเขซ่อนเร้นแบบล้ำหน้า พบว่าใส่สบายมาก โฟกัสภาพได้เร็วมาก หันศีรษะเร็วๆ ก็ไม่รู้สึกวูบวาบ เหลือบตามองภาพด้านข้างได้อย่างชัดเจนทุกระยะภายในเสี้ยววินาทีอย่างเป็นธรรมชาติ อาการปวดหัว อาการไม่สบายตา ปัญหาด้านการมองเห็นที่เคยมี หายไปหมดเหมือนปลิดทิ้ง
ต่อมาไม่นาน ผมเผลอใส่แว่นโปรเกรสซีฟเทคโนโลยีอื่น แค่ไม่กี่นาที ก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ทนปวดหัวอยู่สองวัน อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงรีบไปให้ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลชั้นนำ ตรวจสแกนร่างกายอย่างละเอียดที่สุด แต่ไม่พบว่ามีอาการของโรคใดๆ เลย แพทย์จึงส่งตรวจกับจักษุแพทย์ ก็ไม่พบว่ามีโรคตา จักษุแพทย์จึงถามว่า เปลี่ยนแว่นมาหรือเปล่า ผมตอบว่า เพิ่งเปลี่ยนจากแว่นโปรเกรสซีฟไอซอพติก กลับไปใช้แว่นอันเก่าที่เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเทคโนโลยีอื่น
จักษุแพทย์จึงวินิจฉัยว่า อาการปวดหัวอย่างรุนแรงของผม น่าจะเกิดจากแว่น ให้ลองเปลี่ยนกลับไปใช้แว่นอันที่ใส่สบายกว่า พอกลับถึงบ้าน ผมรีบนำแว่นตาแว่นตาโปรเกรสซีฟไอซอพติกมาใส่ เท่านั้นเอง อาการปวดหัวอย่างรุนแรงก็หายไปอย่างสิ้นเชิง นี่ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ผมไม่มีวันเชื่อเป็นอันขาดว่า คุณภาพที่แตกต่างกันของแว่นตาโปรเกรสซีฟเทคโนโลยีอื่น กับแว่นตาโปรเกรสซีฟไอซอพติก จะส่งผลกระทบต่อสายตา จนถึงกับทำให้ผมปวดศีรษะอย่างรุนแรงได้มากถึงขนาดนี้
ผมคิดว่า ถ้าแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก เกิดแตกหัก เสียหายจากอุบัติเหตุ ผมจะใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้อย่างไร ต้องทนปวดหัวอีกนาน ผมเลยตัดเพิ่มหลายอันเป็นแว่นสำรอง ซึ่งใส่สบายเหมือนกันทุกอัน ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยใช้แต่แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก มาโดยตลอด และกล้าแนะนำให้ทุกคนใช้ ครับ