ตาบวมข้างเดียว ทำให้กังวลใจ เกิดจากอะไรได้บ้าง?

เคยไหม? ตื่นเช้ามาแล้วพบว่า ตาข้างหนึ่งบวม

บางครั้งไม่มีอาการเจ็บ บางครั้งก็แดง คัน หรือปวดร่วมด้วย

👩‍⚕️อาการตาบวมข้างเดียว สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

- เยื่อบุตาอักเสบ

เกิดจากการติดเชื้อหรืออาการแพ้

ทำให้ตาแดง คัน มีน้ำตาไหล ร่วมกับบวมบริเวณรอบตา

- เปลือกตาอักเสบ

เกิดจากต่อมไขมันที่ขอบเปลือกตาทำงานผิดปกติ

ทำให้เกิดการอักเสบ บวม และมีขี้ตามาก

- ตากุ้งยิง

เป็นการติดเชื้อหรือต่อมไขมันอุดตันที่เปลือกตา

มีตุ่มแดง เจ็บ และบวมเฉพาะจุด

- ขยี้ตาแรงเกินไป

ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกหรือเนื้อเยื่อรอบตาบวมช้ำ

โดยเฉพาะถ้ามีอาการภูมิแพ้หรือระคายเคืองอยู่ก่อนแล้ว

- โพรงไซนัสอักเสบ

บริเวณใต้เบ้าตาหรือข้างจมูก ส่งผลให้ตาบวมข้างเดียวได้

- ภาวะเกลือหรือโซเดียมในร่างกายสูงเกินไป

จาการทานอาหารที่มีรสเค็มจัด หรือมีการคั่งของเกลือแร่ในร่างกาย

ทำให้ร่างกายเก็บน้ำมากผิดปกติ ส่งผลให้มีอาการบวมที่ใบหน้าและดวงตา

- แพ้เครื่องสำอาง หรือ ฝุ่น

มีอาการบวม คัน แดง หรือมีผื่น รวมทั้งขี้ตาขาวร่วมด้วย

ตาบวม หายเองได้ไหม ?

โดยปกติหายเองได้ภายใน 1 - 3 วัน

🚨ถ้ามีอาการรุนแรงเหล่านี้

- ปวดตา หรือมีอาการเจ็บมาก

- ตามัวลง เห็นไม่ชัด

- ตาแดงจัด มีขี้ตาเหลืองเขียว

- บวมลุกลามไปยังใบหน้าหรือมีไข้ร่วมด้วย

- ตาบวมไม่ลดลงภายใน 3 วัน

หากไม่แน่ใจ อย่ารอให้ลุกลาม

ควรพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาอย่างละเอียด

.

💁‍♀️ที่ 𝐈𝐒𝐎𝐏𝐓𝐈𝐊 เราให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนในการบริการ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพดวงตา

ก่อนจะวัดสายตาและประกอบแว่น ลูกค้าจะได้รับการตรวจสุขภาพดวงตาก่อน

โดยทีมจักษุแพทย์ จะตรวจอาการผิดปกติของดวงตา และรักษาโรคเกี่ยวกับดวงตา

ในขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ที่มีความผิดปกติในดวงตา รู้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และช่วยให้ค้นพบโรคที่ยังไม่แสดงอาการ สามารถทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่อาการจะรุนแรง

หากตรวจพบโรคตาที่ส่งผลต่อการตรวจวัดสายตา เช่น โรคต้อกระจก โรคต้อหิน ตาแห้ง

ทีมจักษุแพทย์จะคอยให้คำแนะนำวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง ก่อนเข้าไปทำการตัดแว่นโปรเกรสซีฟที่เหมาะกับคุณ

.

👓ISOPTIK เราพร้อมให้บริการด้านคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด